5 อาชีพสาย Tech มาแรง ไม่ต้องเขียนโค้ดก็ทำได้!

5 อาชีพสาย Tech มาแรง ไม่ต้องเขียนโค้ดก็ทำได้! image

ยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีคือหัวใจ

 

หลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า "อาชีพสาย Tech" ที่มาแรงแซงทุกโค้งในยุคนี้ แต่จะว่าไปแล้ว การเขียนโค้ดก็เหมือนด่านแรกที่หลายคนอาจรู้สึกท้อแท้ ทั้งที่จริงแล้ว ยังมี "อาชีพสาย Tech ที่ไม่ต้องเขียนโค้ด" อีกมากมายที่น่าสนใจ ท้าทาย และเปิดโอกาสให้คุณก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยีได้ไม่ยาก

วันนี้ Deeploy ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 อาชีพน่าสนใจในสาย Tech ที่ไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมเจาะลึกหน้าที่ รายได้ และทักษะที่จำเป็น เผื่อจะเป็นไอเดียสำหรับใครที่กำลังมองหาเส้นทางใหม่ในอนาคต

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยกันเลย!

 

 

 

 

1. Product Owner: หัวเรือใหญ่ผู้วางกลยุทธ์และนำพาผลิตภัณฑ์สู่เป้าหมายที่เติบโต

 

Product Owner (PO) เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ผู้มีบทบาทสำคัญในการนำพาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมาย โดยทำหน้าที่วางแผน จัดการ ควบคุม และติดตามความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน มีคุณภาพ และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ

 

หน้าที่ความรับผิดชอบหลัก Product Owner:

  • กำหนดวิสัยทัศน์และกลยุทธ์สำหรับผลิตภัณฑ์
  • วิเคราะห์ตลาดและความต้องการของผู้ใช้งาน
  • วางแผนพัฒนา Roadmap ของผลิตภัณฑ์
  • ดูแลการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์
  • ทำงานร่วมกับทีมนักพัฒนา
  •  นักออกแบบ และฝ่ายการตลาด
  • ติดตามผลและวัดผลความสำเร็จของผลิตภัณฑ์

 

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Product Owner :

  • ทักษะการวิเคราะห์
  • ความเข้าใจเทคโนโลยี
  • ทักษะการสื่อสาร
  • ทักษะการทำงานเป็นทีม
  • วิสัยทัศน์

 

รายได้:

  • เฉลี่ย 40,000 - 150,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และทักษะ

 

โอกาสการเติบโต:

  • Product Manager ที่ประสบความสำเร็จสามารถก้าวหน้าสู่ตำแหน่ง Senior Product Manager, Director of Product Management หรือแม้แต่ Chief Product Officer
  • สามารถผันตัวไปเป็นผู้ประกอบการหรือ Startup Founder

 

 

 

 

Project Manager: ผู้ควบคุมทิศทาง นำพาโครงการสู่ความสำเร็จ

 

Project Manager (PM) หรือ ผู้จัดการโครงการ เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในการนำพาโครงการต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมาย โดยทำหน้าที่วางแผน จัดการ ควบคุม และติดตามความคืบหน้าของโครงการ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะเสร็จสิ้นตามเวลา ตามงบประมาณ และตรงตามคุณภาพที่กำหนด

 

หน้าที่ความรับผิดชอบหลักของ Project Manager:

  • กำหนดขอบเขตและเป้าหมายของโครงการ
  • วางแผนและจัดการโครงการ
  • ควบคุมและติดตามความคืบหน้า:
  • สื่อสารและประสานงาน
  • จัดการความเสี่ยง
  • บริหารทรัพยากร
  • รายงานผลวามคืบหน้าของโครงการ

 

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Project Manager:

  • ทักษะการวางแผนและจัดกา
  • ทักษะการสื่อสาร
  • ทักษะการแก้ปัญหา
  • ทักษะการตัดสินใจ
  • ทักษะการทำงานเป็นทีม
  • ความเป็นผู้นำ

 

รายได้:

  • เฉลี่ย 40,000 - 150,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ทักษะ และขนาดของบริษัท
  • Project Manager ที่มีประสบการณ์สูง ทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ หรือมีใบรับรอง PMP (Project Management Professional) มักจะมีรายได้สูงกว่า

 

โอกาสการเติบโต:

  • Project Manager ที่ประสบความสำเร็จสามารถก้าวหน้าสู่ตำแหน่ง Senior Project Manager, Director of Project Management หรือแม้แต่ Chief Project Officer
  • สามารถผันตัวไปเป็น Consultant หรือ Freelance Project Manager
  • สามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง

 

 

 

 

3. UX/UI Designer: สร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและน่าประทับใจสำหรับผู้ใช้งาน

 

UX/UI Designer หรือ นักออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้และอินเทอร์เฟซ เปรียบเสมือนศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือซอฟต์แวร์ ทำหน้าที่ออกแบบหน้าตาและการใช้งานให้สวยงาม ใช้งานง่าย และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน

 

หน้าที่ความรับผิดชอบหลักของ  UX/UI Designer:

  • ออกแบบหน้าตาและการใช้งานของเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือซอฟต์แวร์
  • ศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน
  • สร้าง Wireframe, Mockup และ Prototype
  • ทดสอบการใช้งานและปรับปรุงดีไซน์
  • ทำงานร่วมกับทีมวิศวกรและนักพัฒนา

 

ทักษะที่จำเป็น:

  • ทักษะการคิดสร้างสรรค์
  • ความเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้
  • ทักษะการออกแบบ UI/UX
  • ทักษะการใช้โปรแกรมออกแบบ เช่น Figma, Sketch, Adobe XD

 

รายได้:

  • เฉลี่ย 30,000 - 80,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และทักษะ

 

โอกาสการเติบโต:

  • UX/UI Designer ที่มีประสบการณ์สามารถก้าวหน้าสู่ตำแหน่ง Senior UX/UI Designer, UX/UI Director หรือแม้แต่ Head of UX/UI
  • สามารถทำงาน Freelance หรือรับงานจากบริษัทต่าง ๆ

 

 

 

 

4.Data Analyst: นักวิเคราะห์ข้อมูลผู้คลี่คลายปริศนาแฝงอยู่หลังตัวเลข

 

"Data Analyst" หรือ "นักวิเคราะห์ข้อมูล" จึงกลายเป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก เปรียบเสมือนนักสืบข้อมูล ค้นหาความหมาย ลวดลาย และข้อมูลเชิงลึกที่ซ่อนอยู่หลังตัวเลข เพื่อนำมาสนับสนุนการตัดสินใจ วางแผนกลยุทธ์ และพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ

 

หน้าที่ความรับผิดชอบหลักของ Data Analyst:

  • รวบรวมและจัดการข้อมูล
  • วิเคราะห์ข้อมูล
  • สื่อสารผลลัพธ์
  • สนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ

 

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Data Analyst:

  • ทักษะคณิตศาสตร์และสถิติ
  • ทักษะการใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลเช่น Excel, SQL, Python, R ฯลฯ
  • ทักษะการสื่อสารข้อมูล
  • ทักษะการคิดวิเคราะห์
  • ทักษะการแก้ปัญหา
  • ทักษะการสื่อสาร
  • ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ

 

รายได้:

  • เฉลี่ย 35,000 - 100,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ทักษะ และขนาดของบริษัท
  • Data Analyst ที่มีประสบการณ์สูง ทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ หรือมีทักษะเฉพาะทาง เช่น Machine Learning, Artificial Intelligence มักจะมีรายได้สูงกว่า

 

โอกาสการเติบโต:

  • Data Analyst ที่ประสบความสำเร็จสามารถก้าวหน้าสู่ตำแหน่ง Senior Data Analyst, Data Scientist, Data Architect หรือแม้แต่ Chief Data Officer
  • สามารถผันตัวไปเป็น Consultant หรือ Freelance Data Analyst
  • สามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง

 

 

 

 

5.SEO Specialist: ผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์เบื้องหลังเว็บไซต์ติดอันดับบน Google

 

การทำ SEO" หรือ "Search Engine Optimization" กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ดึงดูดผู้เข้าชม และสร้างโอกาสทางธุรกิจ "SEO Specialist" หรือ "ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO" จึงกลายเป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก

 

หน้าที่ความรับผิดชอบหลักของ SEO Specialist:

  • วิจัยและวิเคราะห์
  • ปรับแต่งเว็บไซต์ตรงหลัก SEO
  • สร้างลิงก์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือติดตามผลและวิเคราะห์

 

ทักษะที่จำเป็นสำหรับ SEO Specialist:

  • ทักษะการวิเคราะห์และการตลาด
  • ทักษะการเขียน
  • ทักษะการใช้เครื่องมือ
  • ทักษะการคิดวิเคราะห์: SEO Specialist ต้องมีทักษะการคิดวิเคราะห์ สามารถหาสาเหตุของปัญหาและหาแนวทางแก้ไข
  • ทักษะการสื่อสาร: SEO Specialist ต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถอธิบายกลยุทธ์ SEO ให้ลูกค้าเข้าใจ
  • ความรู้เกี่ยวกับ SEO: SEO Specialist ต้องมีความรู้เกี่ยวกับหลักการและเทคนิค SEO ที่ทันสมัย

 

รายได้:

  • เฉลี่ย 30,000 - 80,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ทักษะ และขนาดของบริษัท
  • SEO Specialist ที่มีประสบการณ์สูง ทำงานในบริษัทขนาดใหญ่ หรือมีทักษะเฉพาะทาง มักจะมีรายได้สูงกว่า

 

โอกาสการเติบโต:

  • SEO Specialist ที่ประสบความสำเร็จสามารถก้าวหน้าสู่ตำแหน่ง Senior SEO Specialist, SEO Manager, หรือแม้แต่ Head of SEO
  • สามารถผันตัวไปเป็น Consultant หรือ Freelance SEO Specialist
  • สามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง

 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานของ Software Team เพิ่มเติมได้ที่ : https://deeploytech.co/blogs/what-is-agile

Tag